หุ้น

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์-4 มีนาคม 2565 - กรุงเทพธุรกิจ

วันเสาร์ ที่ 25 มิถุนายน 2565 สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท–  เงินบาทแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่อ่อนค่า ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางสัญญาณตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซีย ทั้งนี้สหรัฐฯ และอียูประกาศตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT รวมถึงออกมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อเบลารุสซึ่งมีส่วนสนับสนุนรัสเซียบุกยูเครน ขณะที่กองกำลังทหารของรัสเซียยกระดับการโจมตีหลายเมืองในยูเครน และเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้แล้ว นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ 3.22 หมื่นล้านบาทในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน  –  ในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ 32.70 เทียบกับระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ก.พ.) สำหรับสัปดาห์ถัดไป (7-11 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.40-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนมี.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประชุม ECB จีดีพีไตรมาส 4/64 (final) ของยูโรโซน การกำหนดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปี 2565 และตัวเลขเศรษฐกิจ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนและข้อมูลการส่งออกด้วยเช่นกันสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย– หุ้นไทยดิ่งลงหนักช่วงท้ายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,671.72 จุด ลดลง 0.49% จากสัปดาห์ก่อน

"หุ้นไทย" เปิดตลาดร่วง 13.41 จุด เฟดยังไม่เผยตัวเลขปรับงบดุล - กรุงเทพธุรกิจ

วันเสาร์ ที่ 25 มิถุนายน 2565 ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเปิดภาคเช้าวันนี้ (27 ม.ค.2565) ดัชนี SET  Index เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ1,630.03จุด ปรับลง 13.41 จุด หรือ 0.82 %  มูลค่าการซื้อขายราว 1.1หมื่นล้านบาท และยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที เปิดเผยว่า เราประเมินตลาดจะแกว่ง sideway ให้แนวรับ 1,637- 1,640 จุด และแนวต้าน 1,648-1,653 จุด  แม้ผลประชุม FOMC จะตามคาด แต่นักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผ่านทาง Index Futures  ของสหรัฐฯในระหว่างวันทั้งนี้ ผลประชุม FOMC ออกมาตามคาดคือ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุมเดือน มี.ค.(ประชุม 15-16 มี.ค.) และเร่งลด QE/QT แต่ยังไม่ระบุจำนวนที่ชัดเจน ตลาดรับรู้ไประดับหนึ่งแล้ว มองว่า สินทรัพย์ที่ยังผันผวนต่อ คือ ตัวที่เชื่อมโยงตรงกับดอกเบี้ย อาทิ พันธบัตร ทองคำ และหุ้นเทคโนโลยี ขณะที่ หุ้นและราคาน้ำมัน คาดยังดีตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวคาดหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ยังช่วยดันดัชนีฯ (แนะ PTTEP, PTT, IVL)  จาก Demand ที่ฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ