คริปโตเคอร์เรนซี

วันเสาร์ ที่ 25 มิถุนายน 2565 “คริปโทเคอร์เรนซี” หรือ “สินทรัพย์ดิจิทัล” สินทรัพย์รูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ และคนที่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความหวังใหม่ของระบบการเงินไทยและธุรกิจแม้ในประเทศไทยจะยังไม่ได้มีการรับรองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าได้เหมือน “เงิน” ตามกฎหมาย เนื่องจากคุณสมบัติไม่ตรงตามที่เงินควรมี รวมถึง ธนาคารแห่งประเทศไทยยังออกตัวว่า “ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ” เพราะราคามีความผันผวนสูง มีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงินได้อย่างไรก็ตาม ความนิยมลงทุนหรือแลกเปลี่ยนของด้วยคริปโทฯ แพร่หลายมาก่อนหน้านี้นานแล้ว กำลังขยายวงกว้างออกไปยังกลุ่ม "ธุรกิจ" ที่มองเห็นโอกาสจากสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ โดยเปิดรับคริปโทฯ เหรียญต่างๆ แลกกับสินค้าและบริการของตัวเอง จนเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในต่างประเทศคริปโทฯ ถูกใช้มาเป็นของแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การซื้อขายสินค้า อาหาร ไปจนถึงอยู่ในความสนใจขององค์กรยักษ์ใหญ่ด้านต่างๆ เช่น อีลอน มัสก์ ประกาศว่าบริษัท "Tesla" (เทสลา) รับบิทคอยน์ในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แม้จะเปลี่ยนใจเดี๋ยวรับเดี๋ยวไม่รับ แต่ก็สะท้อนว่าคริปโทฯ ก็กำลังอยู่ในความสนใจของธุรกิจระดับโลกในไทยเองก็เริ่มมีความร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ต่างๆ กับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนว่า “คริปโทฯ” หรือสินทรัพย์ดิจิทัลใกล้ตัวทุกคนมากขึ้นแล้วเพราะฉะนั้น รู้ไว้ใช่ว่า… “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” จึงจะพาไปอัพเดทว่าในปี 2021 นี้ “แบรนด์” หรือผู้ให้บริการในแวดวงไหนที่เปิดรับคริปโทฯ แลกสินค้าและบริการแทนการใช้เงินบาทบ้าง – แลกเปลี่ยนคริปโทฯ กับเครือ “เดอะมอลล์”อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เขย่าวงการค้าปลีก คือความร่วมมือกันของ “เดอะมอลล์กรุ๊ป” และ “Bitkub” ร่วมทุนเพื่อดึงคริปโทฯ ต่างๆ เข้าไปใช้ใน “Bitkub M Social” ที่เปิดตัวร่วมกันโดย Bitkub M Social คือพื้นที่บน ดิ เอ็มควอเทียร์กว่า 2,000 ตรม. ที่เปิดเป็นคอมมูนิตี้สำหรับสมาชิกที่สนใจคริปโทฯ และเศรษฐกิจดิจิทัลเข้ามาแลกเปลี่ยน

อย่าตกใจกับสภาพตลาดคริปโตฯ ในปัจจุบัน ให้มองว่าตอนนี้คือโอกาส!!  Investing.comsource

หลังจากตลาดคริปโตเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงขาลง นักลงทุนส่วนใหญ่ก็เริ่มเกิดอาการท้อแท้ บ้างก็ไม่อยากเข้าเทรดแล้ว บางคนก็รอเวลาให้ราคาตลาดกลับมาฟื้นตัว โดยวันนี้ คุณปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งกระดานเทรด Satang และ สรัล ศิริพันโนน CEO ของ Satang Corporation ได้ออกมาวิเคราะห์กราฟ พร้อมกับบทวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงกรณีสำคัญเรื่องของอัตราเงินเฟ้อปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang ผู้นำธุรกิจำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน กล่าวว่า “หากจะดูทิศทางของตลาดว่าขึ้นหรือลงนั้นให้ดูที่ 3 ปัจจัยหลักคือ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และ ตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งตอนนี้พูดได้เลยว่าครบทุกองค์ประกอบของตลาดขาลง นั้นคือ FED จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% อีกอย่างน้อย 2ครั้ง (มิถุนายน, กรกฏาคม) ของในปีนี้ ลดปริมาณการซื้อสินทรัพย์ ต่อเดือนของ FED ที่จะเริ่มในเดือนมิถุนายน โดยมีแนวโน้มไปจนถึงช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ให้ดอกเบี้ยไปสู่ระดับ 2.5-3.0% ในปีนี้ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ consumer price index ยังอยู่ที่ 8.3% ซึ่งนับว่าสูงมาก ส่วนตัวเลขการจ้างงานที่ไม่รวมภาคเกษตร (Non-Farm payroll) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คือถ้ามากกว่า 200,000 คน ต่อเดือนอยู่เสมอในปีนี้ จะทำให้ FED กล้าขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างไร้กังวล

เทรนด์การซื้อขาย คริปโตเคอร์เรนซี Cryptocurrency หรือ สกุลเงินดิจิทัล ร้อนแรงแบบไม่แผ่ว สำหรับนักลงทุนยุคใหม่ ทำให้ช่วง 2-3 ปีมามูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลเติบโตสูง ขณะเดียวกันก็มีความผันผวน ราคาขึ้นลงไปเหมือนรถไฟเหาะให้นักลงทุนหวาดเสียวเล่นข้อมูลจาก Digital 2022 Global Overview Report รายงานพฤติกรรมคนในยุคดิจิทัลระดับโลก คนไทยถือครองคริปโตมากเป็นอันดับ 1 ของโลก! มากถึง 20.1% ทั่งที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่แค่ 10.2% เท่านั้น ที่จริงก็ไม่ใช่การลงทุนที่ใหม่มากนัก เพราะกำเนิดมากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งก็พบว่าบรรดานักลงทุนหน้าใหม่ก็ต่างทยอยเข้าสู่โลกแหงคริปโตกันอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่แน่คนที่กำลังอ่านอยู่อาจจะเป็นหนึ่งในนั้น และก็คงอยากรู้ว่า คริปโตเกี่ยวยังไงกับบล็อกเชน มีกี่ประเภท สร้างรายได้แบบไหนได้บ้าง ภาษีคริปโต  งั้นไปดู 7 พื้นฐานสำคัญที่มือใหม่ควรรู้ คริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency คืออะไร บล็อกเชน Block chain คืออะไร Coin และ Token คืออะไร คริปโต 7 กลุ่มหลักที่ต้องรู้ สร้างรายได้จากคริปโตลงทุนระยะยาวซื้อมาในราคาถูก ถือครองจนกว่าจะมีมูลค่าที่พอใจ แล้วขายทำกำไร เเต่ก็ต้องมั่นใจว่ามูลค่าของเหรียญนั้นจะเติบโตขึ้นในอนาคต กำไรมากน้อยอยู่กับความพึงพอใจ เทรดคริปโตทำกำไรในระยะสั้น  เทรดโดยซื้อมาขายไปในระยะเวลาสั้น จึงมีกำไรน้อย แต่เน้นกําไรเล็กๆ ต่อเนื่อง ต้องอาศัยประสบการณ์ ทักษะการคิดวิเคราะห์ และการติดตามข่าวสารเป็นประจำ  การขุดคริปโตกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของคริปโต โดยใช้ระบบตรวจสอบ Proof of Work (PoW) แก้โจทย์ที่ระบบกำหนดมาเพื่อหาค่าสมการที่ถูกต้อง  Staking วางสินทรัพย์ค้ำประกันใช้ระบบตรวจสอบ Proof

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความผันผวน ล่าสุดเช้าวันนี้ (27 พฤษภาคม) ราคาเหรียญคริปโตหลายๆ สกุลปรับตัวลดลงแรงอีกครั้ง โดยราคา Bitcoin ลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 28,800 ดอลลาร์ ลดลงราว 3.2% จากช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่เหรียญ Ethereum เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์ ลดลงราว 10% ปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang กล่าวว่า “ถ้าจะดูทิศทางของตลาดว่าขึ้นหรือลงนั้นให้ดูที่ 3 ปัจจัยหลักคือ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งตอนนี้พูดได้เลยว่าครบทุกองค์ประกอบของตลาดขาลง นั่นคือธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง (มิถุนายน, กรกฎาคม) ในปีนี้ พร้อมกับลดปริมาณการซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนของ Fed ที่จะเริ่มในเดือนมิถุนายน โดยมีแนวโน้มไปจนถึงช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ทำให้ดอกเบี้ยขยับไปสู่ระดับ 2.5-3.0% ในปีนี้ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ Consumer Price Index ยังอยู่ที่ 8.3% ซึ่งนับว่าสูงมาก  ส่วนตัวเลขการจ้างงานที่ไม่รวมภาคเกษตร (Non-Farm Payroll) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คือถ้ามากกว่า 200,000 คนต่อเดือนอยู่เสมอในปีนี้ จะทำให้ Fed

นักวิเคราะห์เผยเหตุผล “Cardano” ทำไมถึงคู่ควรเป็นเหรียญคริปโต 10 อันดับแรก โดย Siamblockchain  Investing.comsource