'เงินบาท' วันนี้เปิด'อ่อนค่า' ที่ 33.44 บาทต่อดอลลาร์ – กรุงเทพธุรกิจ
วันพุธ ที่ 22 มิถุนายน 2565 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(15มี.ค.)ที่ระดับ 33.44 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.38 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.35-33.50 บาทต่อดอลลาร์สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า แม้ว่าเงินบาทมีโอกาสจะอ่อนค่าลงได้บ้าง แต่การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลงได้ และเงินบาทจะเริ่มแกว่งตัว sideways หลังผู้เล่นในตลาดยังคงมีความหวังต่อการเจรจาเพื่อยุติสงคราม ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้เล่นในตลาดไม่ได้เร่งเทขายสินทรัพย์เสี่ยงรุนแรง แม้การเจรจาล่าสุดจะยังไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม นอกจากนี้ ควรจับตาแรงซื้อสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเรามองว่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกันต่อทิศทางของเงินบาท โดยนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยบ้าง แต่ยังคงเห็นแรงขายบอนด์ระยะสั้นอยู่แต่แรงขายบอนด์ระยะสั้นก็อาจเริ่มลดลง หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติได้ปิดสถานะเก็งกำไรเงินบาทไปมากแล้ว ดังนั้น หากสถานการณ์สงครามไม่ได้เลวร้ายหรือทวีความรุนแรงมากขึ้น เราประเมิน นักลงทุนต่างชาติก็พร้อมจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยอีกครั้งได้ เรามองว่า แนวต้านของเงินบาทจะอยู่ใกล้โซน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 33.75) ซึ่งเริ่มเห็นบรรดาผู้ส่งออกมารอขายเงินดอลลาร์ในช่วงดังกล่าว ส่วนแนวรับสำคัญ จะอยู่ในช่วง 33.00-33.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยฝั่งผู้นำเข้า รวมถึงผู้เล่นที่เป็นบริษัทต่างชาติ ต่างก็รอจังหวะ buy on dip อยู่ในโซนดังกล่าวพอสมควร อย่างไรก็ดี สภาวะสงครามที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงอาจกดดันให้ตลาดพลิกกลับไปปิดรับความเสี่ยงและผันผวนหนักได้ทุกเมื่อ ซึ่งเรามองว่า ภาพดังกล่าวจะทำให้เงินบาทอาจผันผวนในกรอบที่กว้างกว่าช่วงปกติได้ ทำให้การปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนควรจะต้องมีการใช้เครื่องมือที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ การใช้ Option ผู้เล่นในตลาดโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวและยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากนัก หลังจากที่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครนล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุป ทว่าผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า การเจรจาสันติภาพจะยังคงดำเนินต่อไปและอาจช่วยยุติสงครามได้ในที่สุดนอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะเริ่มกลับมาให้ความสนใจแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดมากขึ้นและผู้เล่นบางส่วนยังคงกังวลโอกาสที่เฟดอาจใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อดังจะเห็นได้จากแรงเทขายหุ้นเทคฯ ที่กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 2.13%